เซนต์เซย์ย่า (ญี่ปุ่น: 聖闘士星矢 โรมาจิ: Seinto Seiya ทับศัพท์: เซนโตะเซยะ) ซึ่งแต่งขึ้นโดย มาซามิ คุรุมาดะ ซึ่งใช้กลุ่มดาวม้าบินมาเป็นตัวเอกของเรื่อง เนื่องจากม้าบินกำลังอยู่ในท่าทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ตรงกับภาพลักษณ์ของตัวเอกที่เขาได้คิดไว้นั่นเอง
โดยมีเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กหนุ่ม 5 คนที่เรียกว่า เซนต์ (saint) ต่อสู้โดยใช้ร่างกายของตนเองเป็นอาวุธเพื่อปกป้องคิโดะ ซาโอริ ผู้เป็นอวตารของเทพีอะธีนา และต่อสู้กับทัพศัตรูแห่งความชั่วร้าย ในโลกร่วมสมัยที่มีบรรยากาศของเทพปกรณัมกรีก
เซนต์เซย์ย่าออกฉายครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี พ.ศ. 2529 โดยบริษัท โตเอแอนิเมชัน ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีจนได้ออกอากาศติดต่อกันนานเกือบ 3 ปี ประเทศไทย มีการนำเซนต์เซย์ย่ามาออกฉายเมื่อปี พ.ศ. 2531 ทางไทยทีวีสีช่อง 3 โดยใช้ชื่อว่า “เซย่า เทพบุตรหมัดดาวหาง” และมีการนำออกวางจำหน่ายในรูปแบบวีซีดีโดย บริษัท การ์ตูนอินเตอร์ จำกัด ด้วย นอกจากนี้เซนต์เซย์ย่ายังได้รับการดัดแปลงเป็นสื่อในรูปแบบอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ภาพยนตร์ ละครเวที เกม และของเล่นต่าง ๆ
ดราก้อนบอล (ญี่ปุ่น: ドラゴンボール โรมาจิ: Doragon Bōru) ผลงานของอากิระ โทริยาม่า ลงพิมพ์ในนิตยสารโชเนนจัมป์ตั้งแต่ พ.ศ. 2527 – พ.ศ. 2538 และรวมเป็นฉบับรวมเล่มได้ 42 เล่ม ในประเทศไทยเคยลงตีพิมพ์ใน ทาเล้นท์ และ ซีโร่ ในช่วงก่อนที่มีลิขสิทธิ์การ์ตูน และหลังจากนั้นได้ตีพิมพ์ในหนังสือการ์ตูนบูม ภายใต้ลิขสิทธิ์ของบริษัท เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด
เนื้อเรื่องของดราก้อนบอลเกี่ยวกับการผจญภัยของ ซุน โกคู ในการรวบรวมดราก้อนบอลให้ครบ 7 ลูก เพื่อขอพรหนึ่งข้อจากเทพเจ้ามังกร โดยระหว่างการเดินทางโกคูต้องพบกับเพื่อนฝูงและอุปสรรคต่างๆ
ลักษณะการดำเนินเรื่องช่วงแรก น่าจะเอามาจากเรื่องไซอิ๋ว ซึ่งกำหนดให้ซุนโกคู มีชื่อเดียวกับซุนหงอคง ให้มีปิศาจหมู อูลอน ลักษณะคล้าย ตือโป้ยก่าย
ดราก้อนบอลได้รับความนิยมสูงมากทั่วโลกทาง บริษัท โทเอะแอนิเมชั่น ได้เผยรายได้ ปี 2560 ถึง18,00ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 2 ของค่าย เป็นรองเพียง Gundam เท่านั้น
ในด้านของ มังงะ ที่ตีพิมพ์เป็นเวลา 1ปีตั้งแต่ พ.ศ. 2527-2538 จำนวณเล่ม 4 มียอดขายสูงถึง 240 ล้านเล่มทั่วโลก ถูกจารึกว่ามียอดขาย เฉลี่ย/เล่ม อยู่ที่ 5.7 ล้านเล่ม
ดราเอมอน (ญี่ปุ่น: ドラえもん) วาดโดยฟูจิโกะ ฟูจิโอะ ซึ่งเป็นนามปากกาของ ฮิโรชิ ฟูจิโมโตะ กับ โมโต อาบิโกะ
เนื้อเรื่องส่วนมากจะเกี่ยวกับปัญหาของ โนบิตะ เด็กชายชั้น ป.4 ที่มักถูกเพื่อน ๆ แกล้งไม่ค่อยชอบทำการบ้าน ไม่ชอบอ่านหนังสือและไปโรงเรียนสายบ่อย ๆ โดยมีโดราเอมอน หุ่นยนต์แมวจากอนาคตที่คอยช่วยเหลือโนบิตะด้วยของวิเศษจากอนาคต
โดราเอมอนเริ่มตีพิมพ์ครั้งแรกในญี่ปุ่นเมื่อ เดือนธันวาคม พ.ศ. 2512 โดย สำนักพิมพ์โชงะกุกัง โดยมีจำนวนตอนทั้งหมด 1,344 ตอน ต่อมาในวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2540 โดราเอมอนได้รับรางวัลเทะซุกะ โอซามุ ครั้งที่ 1 ในสาขาการ์ตูนดีเด่น อีกทั้งยังได้รับเลือกจาก นิตยสารไทม์เอเชีย ให้เป็น 1 ในวีรบุรุษของ ทวีปเอเชีย จาก ประเทศญี่ปุ่น จากนั้นในวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2551 โดราเอมอนก็ได้รับเลือกให้เป็นทูตสันถวไมตรี เพื่อการประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมของ ประเทศญี่ปุ่น
ในประเทศไทย โดราเอมอนฉบับหนังสือการ์ตูนมีการตีพิมพ์โดยหลายสำนักพิมพ์ในช่วงก่อนที่จะมีลิขสิทธิ์การ์ตูน แต่ปัจจุบัน สำนักพิมพ์ เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์ เป็นผู้ได้รับลิขสิทธิ์ในการจัดพิมพ์แต่เพียงผู้เดียว ส่วนฉบับอนิเมะ ออกอากาศครั้งแรก วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2525 ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ในปัจจุบัน และวางจำหน่ายในรูปแบบวีซีดี-ดีวีดี ลิขสิทธิ์โดยบริษัท โรส วิดีโอ
(ญี่ปุ่น: 一休さん โรมาจิ: Ikkyusan) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องราวเกี่ยวกับ อิคคิว เณรในนิกายเซนที่มีปัญญาฉลาดหลักแหลม ตัวละครอิคคิวมาจากพระนิกายเซนชื่อ อิกกีว โซจุง ที่มีชีวิตในช่วง ค.ศ. 1394–1481
แต่ละตอนจะเกิดปัญหาต่างๆ ที่มาจากเพื่อนเณรในวัดอังโกะกุ คือ ชูเน็นซัง จินเน็นซัง เท็ซไซซัง และเทะสึไบซัง หรือที่โชกุนอาชิคางะ โยชิมิสึ กับคิเคียวยะซัง เจ้าของร้านขายของชำในละแวกวัด ร่วมกับลูกสาว ทั้งจากวิธีที่ตั้งใจกลั่นแกล้งเล่นๆ(อำ) คำถามทดลองเชาว์ปัญญา เหตุสุดวิสัย หรืออื่นๆ แต่อิคคิวก็ใช้วิธีการนั่งสมาธิเพื่อให้เกิดปัญญา และแก้ไขสถานการณ์ไปได้ทุกครั้ง โดยก่อนจะนั่งสมาธิ อิคคิวซังจะมีคำพูดประจำว่า ใช้’หมอง นั่ง’มาธิ และโชกุนก็ยังสั่งการให้ซามูไรชินเอมอน ซึ่งเป็นผู้ตรวจการ เฝ้าติดตามอิคคิวซังไปทุกที่ ราวกับเป็นองครักษ์ส่วนตัว โดยอิคคิวซัง เพื่อนเณร และซาโยจัง เด็กหญิงที่อาศัยอยู่บริเวณวัด จะเรียกว่า ชินเอมอนซัง
ที่มาที่ไปของเนื้อเรื่อง เณรน้อยเจ้าปัญญา อ้างอิงถึงประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น โดยย้อนกลับไปในช่วงยุคเฮอัง ใน ค.ศ. 794 จักรพรรดิญี่ปุ่น ได้จัดให้มีโชกุน เป็นตำแหน่งของนายทหารใหญ่ ปฏิบัติหน้าที่เป็นอำมาตย์ใหญ่ช่วยในการปกครองประเทศ แต่ต่อมา ในยุคคะมะกุระ จักรพรรดิกลับดูเหมือนเป็นเพียงหุ่นเชิดของโชกุน ใน ค.ศ. 1333 จึงมีการฟื้นฟูระบบจักรพรรดิ ทำให้จักรพรรดิกลับมามีอำนาจอีกครั้ง แต่ใน ค.ศ. 1336 ก็เข้าสู่ยุคมุโระมะจิ นายทหารเข้าปราบปรามชนชั้นปกครอง แล้วก่อตั้งรัฐบาลโชกุน ขึ้นปกครองประเทศในรูปแบบเผด็จการทหารตั้งแต่บัดนั้นจนกระทั่ง ค.ศ. 1868 เมื่อเข้าสู่ยุคเมจิ ตำแหน่งโชกุนถูกยกเลิก จักรพรรดิมีอำนาจในฐานะประมุขอีกครั้ง
ครยอนชินจัง[1] (ญี่ปุ่น: クレヨンしんちゃん โรมาจิ: Kureyon Shinchan; อังกฤษ: Crayon Shin-chan) เป็นอนิเมะญี่ปุ่น เรื่องและภาพโดยโยะชิโตะ อุซุอิ ตีพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่นโดยสำนักพิมพ์ Futabasha ในประเทศไทยตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์ และได้รับการสร้างเป็นแอนิเมชัน ในปี พ.ศ. 2535 เรื่องเกียวกับเด็กอนุบาลวัย5ขวบชื่อโนฮาระชินโนะสุเกะเป็นเด็กลามกแต่มีความอ่อนโยนและน่ารักในบางทีชอบกินขนมช็อกโกบี มีไอดอลคือหน้ากากแอ้คชั่น
อ.โยะชิโตะ อุซุอิได้นั่งกลัดกลุ้มกับผู้ดูแลการทำงานของอาจารย์ ว่าจะให้เรื่องนี้ชื่อว่าอะไร แล้วจะให้เนื่อเรื่องเกี่ยวกับเด็กอนุบาลหรือจะให้เกี่ยวกับโรงเรียนอนุบาล จู่ๆผู้ดูแลก็คิดคำว่า”เครยอนชินจัง”ขึ้นมาได้ อาจารย์ชอบชื่อนี้มากจึงนำมาใส่เป็นชื่อเรื่องทันที แล้วก็ให้เนื่อเรื่องเกี่ยวกับเด็กอนุบาลที่ชื่อว่า”โนะฮาร่า ชินโนะสุเกะ”
เนื้อเรื่องเกี่ยวกับชินจัง (โนะฮาร่า ชินโนะสุเกะ; Nohara Shinnosuke) เด็กอนุบาลวัย 5 ขวบ มีนิสัยคล้ายคลึงกับพ่อ (ฮิโรชิ) เช่น ชอบผู้หญิงหุ่นดีหน้าตาดี . แม่ของชินจัง (มิซาเอะ) มีนิสัยขี้เหนียว แต่โมโหง่ายและน่ากลัว ใบหน้ามีรอยเหี่ยวย่น(รอยตีนกา) .ชินจังมีน้องสาวหนึ่งคนชื่อฮิมาวาริ. ครอบครัวของชินจังเลี้ยงหมาหนึ่งตัว ชื่อเจ้าขาว (ชิโร่). เพื่อน ๆ ของชินจังที่พบในเรื่องบ่อย ๆ คือ คาซามะคุง, เนเน่จัง, มาซาโอะคุง, และ โบจัง ชินจังมักมีท่าแปลก ๆ เช่น ท่ามนุษย์ต่างดาวนู้ดครึ่งก้น ท่าที่เอากางเกงในมาครอบหัว โดยทำเหมือนกับว่ามันเป็นหน้ากาก ชินจังชอบดูการ์ตูนหน้ากากแอ็คชั่นและกันดั้ม เป็นคนที่ชื่นชอบ และชื่นชมในตัวหน้ากากแอ็คชั่นมาก มีขนมโปรดคือ ช็อกโกบิ้ การละเล่นของชินจังที่โรงเรียนคือ เล่นเป็นยุง เล่นเป็นอึ เล่นซ่อนแอบแบบไม่มีคนหา(ส่วนใหญ่แล้วจะเล่นกับโบจัง) เล่นแกล้งตายบนหิมะ เล่นพ่อ แม่ ลูก (เมื่อถูกเนเน่จังบังคับ)
หนูน้อยจอมซ่า มารุโกะจัง หรือ หนูน้อยจอมฮา..มารูโกะจัง หรือชื่อภาษาญี่ปุ่น จิบิ มารุโกะจัง (ญี่ปุ่น: ちびまる子ちゃん โรมาจิ: Chibi Maruko-chan) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น โดยโมโมโกะ ซากุระ ตีพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่นโดยสำนักพิม์ ชูเอชะ (Shueisha)
จิบิ มารุโกะจัง เป็นการ์ตูนเด็กที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของ มารุโกะจัง ตัวเอกของเรื่องและคนรอบ ๆ ข้างตัวเธอ ที่มีความคิดแปลก ๆ แตกต่างกัน โดยเป็นการ์ตูนที่นิยมในประเทศญี่ปุ่นเรื่องหนึ่ง และนอกจากมังงะ อนิเมะ และภาพยนตร์การ์ตูนแล้ว เรื่องนี้ยังมีทำเป็นละครโทรทัศน์
หนูน้อยจอมซ่า มารุโกะจัง เคยออกอากาศในประเทศไทยทางช่อง 3 เมื่อปี 2541 และหยุดออกอากาศเรื่อยมาจนในปี 2554 ทรู สปาร์ค ก็ได้นำกลับมาออกอากาศใหม่อีกครั้ง โดยนำเวอร์ชัน 2538 มาออกอากาศ
เป็นเรื่องของครอบครัว ซากุระ โดยมีเด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.3 มารุโกะจัง เป็นตัวเอกของเรื่อง ในครอบครัวของซากุระมีทั้งคุณปู่ คุณย่า คุณพ่อ คุณแม่ และพี่สาวที่อยู่ชั้น ป.6
ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ (ญี่ปุ่น: デジモンアドベンチャー โรมาจิ: Dejimonadobenchā ทับศัพท์: ทับศัพท์จาก Digimon Adventure) เป็นภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์จากประเทศญี่ปุ่น ในชุดภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์ดิจิตอลมอนสเตอร์ ออกอากาศครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อเมื่อ มีนาคม พ.ศ. 2542 ดิจิมอนแอดเวนเจอร์เป็นภาคแรก ซึ่งมีภาคต่อมาคือ ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ 02 ดิจิมอนเทมเมอร์ ดิจิมอนฟรอนเทียร์ , ดิจิมอนเซฟเวอร์ส และ ดิจิมอนครอสวอร์ส แล้วในงานฉลองครบรอบ 15 ปี ดิจิมอน ในวันที่ 1 สิงหาคม 2557 ทางญี่ปุ่นได้ประกาศว่า ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ ไทร จะฉายช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 2558
วันที่ 1 สิงหาคม ปี 1999 โลกทั้งโลกเกิดความแปรปรวนทางสภาพอากาศ ประเทศที่เป็นฤดูหนาวกลับแห้งแล้ง ประเทศที่เป็นฤดูแล้งกลับน้ำท่วม
ในระหว่างที่ไทจิ และเพื่อนๆในโรงเรียนกำลังตั้งค่ายฤดูร้อนกันอยู่นั้นเอง ก็เกิดพายุหิมะถล่มค่าย หลังจากสิ้นเสียงพายุก็ได้เกิดมีวัตถุประหลาดหล่นลงมาจากฟากฟ้า เป็นเครื่องมือแปลก ๆ ที่ไม่คุ้นตา จากนั้นพวกเขาก็โดนดูดไปยังโลกดิจิตอล เพื่อปราบเหล่าร้ายที่กำลังทำให้ดิจิตอลเวิลด์ปั่นป่วน
คาเมนไรเดอร์ (ญี่ปุ่น: 仮面ライダー โรมาจิ: Kamen Raidā) เป็นภาพยนตร์แนวโทคุซัทสึผลงานโดย อ.โชทาโร่ อิชิโนะโมะริและเป็นเรื่องแรกของคาเมนไรเดอร์ ออกอากาศที่ญี่ปุ่นวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2514 ถึง 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2516 มีความยาวทั้งสิ้น 98 ตอน ด้วยกัน ถือเป็นซีรีส์คาเมนไรเดอร์ที่มีจำนวนตอนยาวที่สุด ซึ่งหากนับรวมตอนที่ 1 ของ เดชไอ้มดเขียว วี 3 “คาเมนไรเดอร์หมายเลข 3 นามนั้นคือ V3” กับ ตอนที่ 2 “พินัยกรรมของดับเบิ้ลไรเดอร์” ด้วยแล้ว ก็จะครบ 100 ตอนพอดี
คาเมนไรเดอร์เข้าฉายในประเทศไทยในชื่อของ ไอ้มดแดงอาละวาด และตัวเอกไรเดอร์ในเรื่องก็ถูกเรียกว่า ไอ้มดแดง นอกจากนั้นในเรื่องยังได้ก่อให้เกิดวลีที่ได้รับความนิยมมากวลีหนึ่งคือคำว่า “สู้เขาต่อไป ไอ้มดแดงของเรา” และ “สู้เขา ทาเคชิ!!” นอกจากนั้นจากการเข้าฉายของคาเมนไรเดอร์ V3 ทำให้ไรเดอร์ทั้งสองถูกเรียกผิดเป็น ไอ้มดแดง V1 และ ไอ้มดแดง V2 ประเทศไทยฉายทางช่อง 7 ขาวดำ (ปัจจุบันคือ ททบ.5) เริ่มฉายวันแรก วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2514 เวลา 18:40 น.
องค์กรวายร้ายช็อกเกอร์ วางแผนจะสร้างมนุษย์ดัดแปลงขึ้นมาเพื่อใช้ยึดครองโลก จึงได้ออกค้นหาผู้ที่มีคุณสมบัติที่สามารถเป็นมนุษย์ดัดแปลงได้ และได้มาพบกับ “ฮอนโก ทาเคชิ” นักแข่งจักรยานยนต์ ช็อกเกอร์ได้จับตัวทาเคชิมาเพื่อดัดแปลงให้กลายเป็นคาเมนไรเดอร์ ทว่าผู้ที่แนะนำฮอนโกให้กับพวกช็อกเกอร์นั้นคือ “ด็อกเตอร์ มิโดริคาวะ” ซึ่งเป็นอาจารย์ของฮอนโกนั่นเอง ในขณะที่ การดัดแปลงร่างของฮอนโกกำลังจะถึงขั้นตอนสุดท้ายคือการผ่าตัดสมอง ก็เกิดอุบัติเหตุไฟฟ้าลัดวงจรขึ้น ตอนนั้นเองที่ฮอนโกได้พบกับด็อกเตอร์ มิโดริคาวะ จากนั้นด็อคเตอร์ มิโดริคาวะ ก็ได้บอกถึงพลังความสามารถของมนุษย์ดัดแปลงในตัวของฮอนโก ทำให้ฮอนโกสามารถหนีออกมาจากช็อกเกอร์ได้…
ทธิ์หมัดดาวเหนือ (ญี่ปุ่น: 北斗の拳 โรมาจิ: Hokuto no Ken; อังกฤษ: Fist of the North Star) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นแนวต่อสู้ แต่งเนื้อเรื่องโดย บุรอนซอน และวาดภาพโดย เท็ตสึโอะ ฮาร่า ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารโชเน็นจัมป์ ปี พ.ศ. 2526–2531 ฉบับรวมเล่มมีทั้งหมด 27 เล่มจบ ต่อมาได้ถูกสร้างเป็นอนิเมะ เกม โอวีเอ รวมถึงภาพยนตร์จอเงิน (ทั้งแบบใช้คนแสดง และแบบอนิเมะ) เรื่องราวกล่าวถึงเหตุการณ์หลังสงครามโลกครั้งที่ 3 ในปี ค.ศ. 199X ซึ่งทำให้โลกกลับคืนสู่ยุคเข็ญและความป่าเถื่อน มีเพียง เคนชิโร่ บุรุษผู้มีรอยแผลเป็นรูปดาวเหนือ 7 แห่งบนหน้าอกเท่านั้นที่จะสามารถกอบกู้โลกได้ ด้วย “หมัดอุดรเทวะ” เพลงหมัดที่สามารถทะลวงจุดตายของคู่ต่อสู้ ส่งผลให้อวัยวะภายในแหลกเหลว และร่างกายระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ ได้ในพริบตา
สแลมดังก์ (ญี่ปุ่น: スラムダンク โรมาจิ: Suramu Danku) (อังกฤษ: Slam Dunk) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นเขียนโดย ทาเคฮิโกะ อิโนอุเอะ ตีพิมพ์และได้ลิขสิทธิ์โดย บริษัท เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด ปัจจุบัน ในประเทศไทยได้จบภาค 1 ไปแล้ว ซึ่งหวังว่าผู้เขียนจะเขียนภาค 2 ต่อ
ซากุรางิ ฮานามิจิ นักเรียนนักเลงที่ถูกผู้หญิงที่ตัวเองจีบ หักอกมาแล้วกว่า 50 ครั้ง และเมื่อได้เข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยม โชโฮคุ ก็ได้พบเจอสาวงามนาม อาคางิ ฮารุโกะ และได้ตกหลุมรักทันทีที่เห็น เพื่อต้องการชนะใจเธอ ซากุรางิ จึงต้องสมัครเข้าชมรมบาสเกตบอลจากการชักชวนของเธอเพราะฮารุโกะชื่นชอบบาสเกตบอลเป็นพิเศษ โดยในทีมบาสเกตบอลนี้ มีพี่ชายของฮารุโกะเป็นกัปตันทีมชื่อว่า อาคางิ ทาเคโนริ และยังมีโค้ชระดับตำนานในวงการ์บาสเกตบอลญี่ปุ่นชื่อ อาจารย์ อันไซ เป็นผู้ฝึกสอนอยู่ในทีม และเมื่อซากุรางิฝึกพื้นฐานทางบาสเกตบอลอยู่ทุกวันๆ ก็เริ่มเบื่อ อาคางิ จึงได้ฝึกการรีบาวด์ (Rebound) ลูกและการชูตแบบเลย์อัพ (Layup)
ซเลอร์มูน (Sailor Moon) เป็นชื่อของ โชโจะ วาดโดย นาโอโกะ ทาเคอุจิ ลงตีพิมพ์เป็นตอนๆ ในนิตยสารนากาโยชิของ สำนักพิมพ์โคดันฉะ ประเทศญี่ปุ่น
เรื่องราวหลักๆ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวร่างจุติของผู้พิทักษ์อาณาจักรใน ระบบสุริยะจักรวาล ที่ถูกทำลาย และการต่อสู้กับอำนาจชั่วร้ายของเหล่าผู้พิทักษ์ในชุดกะลาสี ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างเนื้อเรื่องที่โรแมนติกในแบบการ์ตูนผู้หญิง กับ ฉากการต่อสู้กับเหล่าร้าย ที่ส่วนใหญ่มักจะพบเห็นแต่เฉพาะในการ์ตูนผู้ชายได้อย่างลงตัว ทำให้เซเลอร์มูนได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่เด็กผู้หญิง โดยหนังสือการ์ตูนฉบับรวมเล่มทั้ง 18 เล่ม มียอดขายรวมสูงถึง 12 ล้านเล่ม (ข้อมูลเมื่อปี พ.ศ. 2546 [1]) เมื่อนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์อนิเมะออกอากาศทางโทรทัศน์ เซเลอร์มูนก็ยิ่งมีกลุ่มผู้ชมที่กว้างขวางมากขึ้น จนได้ออกอากาศติดต่อกันยาวนานถึง 5 ปี เพราะแฟน ๆ เรียกร้องให้สร้างภาคอนิเมะฉายทางโทรทัศน์ต่อไปเรื่อยๆ[2] จนกระทั่งเนื้อเรื่องได้จบลงอย่างสมบูรณ์ในภาค Stars อีกทั้งยังมีหุ่นโมเดลต่าง ๆ และอุปกรณ์ของเล่นที่ใช้ในการแปลงกายหรือต่อสู้ของเซเลอร์มูนผลิตออกมาจำหน่ายอย่างมากมาย[3]
เรื่องย่อ วันหนึ่งในเมืองอาซาบุจูบัง สึคิโนะ อุซางิ นักเรียนสาวชั้น ม.2 ที่แสนจะซุ่มซ่าม เรียนไม่ดี กีฬาก็ไม่เก่ง ได้พบกับลูน่า แมวดำประหลาดซึ่งมีรูปจันทร์เสี้ยวที่หน้าผาก ลูน่าได้มอบปากกาและเข็มกลัดวิเศษให้แก่อุซางิ ทำให้เธอสามารถแปลงร่างเป็นเซเลอร์มูนเข้าต่อสู้กับเหล่าร้ายเพื่อรักษาความสงบสุขของโลก ร่วมกับพรรคพวกอัศวินเซเลอร์คนอื่น ๆ ที่ได้ปรากฏตัวขึ้นมาในภายหลัง
ดร.สลัมป์ กับหนูน้อยอาราเล่ (ญี่ปุ่น: Dr. (ドクター) スランプ โรมาจิ: Dokutā Suranpu?) (อังกฤษ: Dr. Slump) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น วาดโดย อากิระ โทริยามา (ญี่ปุ่น: 鳥山明 โรมาจิ: Toriyama Akira ทับศัพท์: โทะริยะมะ อะกิระ) อนิเมะของการ์ตูนเรื่องนี้ ได้มีการนำกลับมาวาดใหม่ในปี 2540 โดยมีการปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่อง และสีสันของตัวละครจากของเดิม
เรื่องเกิดขึ้นในหมู่บ้านเพนกวิน โดย ดร. เซมเบ้ หรือ ดร.โนริมากิ เซมเบ้ ซึ่งเป็นนักประดิษฐ์ ได้ทำการประดิษฐ์หุ่นยนต์ที่เหมือนมนุษย์ที่ชื่อว่า โนริมากิ อาราเล่ ขึ้นมา แต่ในเวอร์ชันใหม่นั้น ดร.สลัมป์ตั้งใจจะสร้างหุ่นยนต์คนใช้สุดสวย แต่ได้เกิดฟ้าผ่าขึ้น จนทำให้อุปกรณ์ได้รวนขึ้นมา แล้วสร้างหุ่นยนต์เด็กผู้หญิงมาแทน หลังจากนั้น ก็ได้พบกับไข่ในยุคไดโนเสาร์ ซึ่งฟักออกมาแล้วก็ได้เด็กผมสีเขียว (ในเวอร์ชันใหม่เป็นสีทอง) อาราเล่ได้ตั้งชื่อว่า “โนริมากิ กั๊ตซิลล่า” ซึ่งเป็นคำประสมระหว่าง ก็อตซิลล่ากับกาเมล่า โดยเรียกสั้น ๆ ว่า “กั๊ตจัง”